บทความน่าสนใจ
08 พฤศจิกายน 2566

เลือกรูปแบบการขนส่งอย่างไรให้เหมาะสมกับสินค้าของคุณ!

รูปแบบการขนส่งคืออะไร?

รูปแบบการขนส่ง คือ วิธีการต่างๆในการเคลื่อนย้ายสินค้า หรือ คน จากตำแหน่งสถานที่หนึ่งไปยังอีกตำแหน่งสถานที่หนึ่ง โดยใช้โครงสร้างพื้นฐาน และ วิธีดำเนินการที่แตกต่างกันออกไป ในปัจจุบันอุตสาหกรรมโลจิสติกส์มีรูปแบบการขนส่งหลัก 4 ประเภท ได้แก่ การขนส่งทางอากาศ ทางทะเล ทางรถ และทางราง สำหรับวิธีที่คุณใช้นั้นจะขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณจัดส่ง สถานที่ที่คุณจัดส่ง และสถานที่ที่คุณจัดส่ง

4 รูปแบบการขนส่งยอดนิยม

1. การขนส่งทางอากาศ

การขนส่งทางอากาศเป็นรูปแบบการขนส่งที่สำคัญในโลกของโลจิสติกส์และการค้าโลก เนื่องจากเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการจัดส่งที่รวดเร็ว สามารถเข้าถึงได้ทั่วโลกและเป็นวิธีการที่สะดวกสบายในการเคลื่อนย้ายพัสดุขนาดเล็กในระยะทางไกล การขนส่งรูปแบบนี้ได้รับความนิยมด้วยเหตุผลหลายประการ ทำให้เป็นตัวเลือกที่จำเป็นสำหรับธุรกิจที่ต้องการความรวดเร็ว เช่น ยา เครื่องสำอาง สินค้าฟุ่มเฟือย เครื่องประดับ ฮาร์ดแวร์ และอื่นๆ แต่ไม่เหมาะกับสินค้ามูลค่าต่ำ สินค้าที่มีขนาดใหญ่ และสินค้าที่มีน้ำหนักมาก ซึ่งการขนส่งทางอากาศจะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการขนส่งประเภทอื่นๆ

2. การขนส่งทางทะเล หรือ การขนส่งทางเรือ

การขนส่งทางทะเลเป็นการขนส่งที่ใช้ตู้คอนเทนเนอร์เป็นหลัก ซึ่งส่วนใหญ่ใช้สำหรับการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ และถือเป็นรูปแบบการขนส่งที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในอุตสาหกรรมการค้าโลก สินค้ามากกว่า 90% ขนส่งโดยเรือ เนื่องจากต้นทุนการขนส่งถูก ธุรกิจส่วนใหญ่จึงนิยมใช้รูปแบบการขนส่งนี้เมื่อต้องการขนส่งสินค้าจำนวนมากหรือสินค้าที่มีน้ำหนักมาก เช่น ยานยนต์ เครื่องจักร ชิ้นส่วนอุตสาหกรรม วัสดุก่อสร้าง อาหาร และอื่นๆ

โดยทั่วไปการขนส่งด้วยระบบตู้คอนเทนเนอร์จะแบ่งเป็น 2 แบบคือ

  • Full container Load หรือ FCL หมายถึง การขนส่งสินค้าแบบเต็มตู้หรือเหมาตู้สินค้าในตู้คอนเทนเนอร์จะเป็นของผู้จัดส่งเท่านั้นจะไม่ได้ใช้ร่วมกันกับสินค้าของผู้คนส่งอื่นๆแม้ว่าตู้คอนเทนเนอร์อาจไม่ได้บรรทุกจนเต็มแต่อัตราค่าบริการจะคิดตามจำนวนเต็มตู้คอนเทนเนอร์ FCL เป็นวิธีการจัดส่งมาตรฐานสำหรับสินค้าขนาดใหญ่ และเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับการขนส่งระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการจัดส่งที่มีปริมาณมากกว่า 13 ลูกบาศก์เมตร และคอนเทนเนอร์ที่ใช้ในการขนส่งจะมี 2 ประเภทหลักๆ ได้แก่ คอนเทนเนอร์แบบแห้ง (20GP, 40GP, 40HC) สำหรับสินค้าทั่วไป และตู้คอนเทนเนอร์เย็น (20RF และ 40RF) สำหรับการขนส่งสินค้าที่เน่าเสียง่าย
  • Less than container Load หรือ LCL หมายถึง การขนส่งสินค้าแบบไม่เต็มตู้ เป็นการจัดส่งสินค้าที่มีปริมาณน้อย และสินค้าขนาดเล็กจากผู้จัดส่งอื่นๆจะถูกรวมและจัดส่งพร้อมกันในคอนเทนเนอร์เดียวกัน

3. การขนส่งทางรถ

การขนส่งทางรถหรือหัวลากเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับการขนส่งสินค้าที่มีระยะสั้น เนื่องจากมีราคาไม่สูงมากและต้องการความรวดเร็ว ซึ่งเป็นรูปแบบการขนส่งหลักสำหรับการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดน และ สำหรับการจัดส่งสินค้าถึงประตูบ้านของลูกค้า (Door-to-Door Service) เช่น มาเลเซียและไทย หรือ ลาวและไทย และยังสามารถใช้ร่วมกับวิธีการขนส่งอื่นได้อีกด้วย

4. การขนส่งทางราง

การขนส่งทางราง หรือ ทางรถไฟเป็นส่วนสำคัญของเส้นทางโลจิสติกส์ทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุโรปและอเมริกาเหนือ ซึ่งมีเครือข่ายระบบรางครอบคลุม ตัวอย่างเช่น ในอเมริกาเหนือ การขนส่งทางรถไฟคิดเป็นประมาณ 15% ของการเดินทางขนส่งสินค้าทั้งหมด ในปัจจุบันในเส้นทางรถไฟในเอเชียได้มีการพัฒนาขึ้นแบบก้าวกระโดด เช่น เส้นทางรถไฟความเร็วสูง จีน-ลาว รถไฟสายนี้ ขนส่งผู้โดยสารไปแล้วกว่า 1 ล้านคน และบรรทุกสินค้ากว่า 5 แสนตัน โดย 1 แสนตันเป็นสินค้าข้ามพรมแดน และ เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการการขนส่งสินค้าที่รวดเร็ว มีกำหนดเวลา ราคาที่ไม่สูงมาก และเชื่อถือได้ในพื้นที่ต่างๆ ของโลกซึ่งมีเครือข่ายระบบรางที่แข็งแกร่ง

Credit: https://wearedg.com/news/article/modes-of-transport-logistics

5 ปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการเลือกรูปแบบการขนส่งให้เหมาะสมที่สุด

1) ค่าขนส่ง:

เมื่อต้องเลือกวิธีการขนส่งสินค้าที่ดีที่สุดในการนำเข้าหรือส่งออก งบประมาณของคุณคือปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่สุดในการตัดสินใจ ต้นทุนการขนส่งอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับชนิดและปริมาณของสินค้าที่จะขนส่ง และจำเป็นต้องพิจารณาว่าต้นทุนการขนส่งจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนโดยรวมของสินค้า

2) ความน่าเชื่อถือและความสม่ำเสมอของการบริการ

การเลือกรูปแบบการขนส่งขึ้นอยู่กับความเร็วที่ต้องการในการจัดส่งสินค้า การขนส่งทางบก ทางทะเล และทางอากาศอาจได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย เช่นฝนตกหนัก หิมะ หมอก และพายุ ซึ่งอาจทำให้เกิดความล่าช้าได้

3) ความปลอดภัย

ความปลอดภัยของสินค้าระหว่างการขนส่งยังส่งผลต่อการเลือกรูปแบบการขนส่งด้วย การขนส่งทางบกโดยรถบรรทุกอาจนิยมมากกว่าการขนส่งทางรถไฟ เนื่องจากโดยทั่วไปแล้วมีความเสี่ยงต่อการสูญเสียที่น้อยกว่า และสำหรับการขนส่งทางน้ำนั้นทำให้สินค้าตกอยู่ในอันตรายทางทะเล ดังนั้น จากมุมมองด้านความปลอดภัย การขนส่งทางทะเลจึงมีความเสี่ยงที่สุด นอกจากนี้ เพื่อปกป้องสินค้าระหว่างการขนส่ง แนะนำให้ใช้บรรจุภัณฑ์ที่เหมาสมกับสินค้ และ สินค้าบางอย่างอาจจำเป็นต้องมีบรรจุภัณฑ์พิเศษหรือเงื่อนไขในการจัดส่ง เช่น เครื่องทำความเย็นหรือมาตรการรักษาความปลอดภัย ซึ่งจะต้องนำมาพิจารณาด้วย

4) ลักษณะของสินค้า

ขนาดและน้ำหนักของสินค้ายังมีบทบาทในการกำหนดรูปแบบการขนส่งที่เหมาะสมอีกด้วย โดยทั่วไปการขนส่งทางบกและทางอากาศจะเหมาะสำหรับการขนส่งขนาดเล็กและน้ำหนักไม่มาก ในขณะที่การขนส่งทางรางและทางทะเลจะเหมาะสำหรับการขนส่งที่มีน้ำหนักมากมากกว่า การเลือกรูปแบบการขนส่งอาจขึ้นอยู่กับว่าผลิตภัณฑ์มีอันตราย ความเปราะบาง หรือมูลค่าของผลิตภัณฑ์ด้วย โดยทั่วไปแล้วการขนส่งทางอากาศเป็นตัวเลือกที่ต้องการสำหรับการขนส่งสินค้าที่มีความเปราะบางหรือมีมูลค่าสูง

5) ปัจจัยอื่นๆ ที่ควรคำนึงถึง:

เงื่อนไขของสัญญาซื้อ-ขายส่งออก เช่น ผู้ซื้ออาจขอให้ใช้รูปแบบการขนส่งเฉพาะ

ทำเลที่ตั้งของผู้ขายและผู้ซื้อว่าอยู่ใกล้กับสนามบิน ท่าเรือ และสถานีรถไฟ หรือไม่

สิ่งอำนวยความสะดวกที่ท่าเรือปลายทาง เช่น การขนถ่ายเทกอง หรืออุปกรณ์ขนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์

Credit: https://tradelogistics.co.za/factors-to-consider-when-choosing-the-most-suitable-mode-of-transport

CRL Import Team