บทความน่าสนใจ
17 พฤศจิกายน 2566

ช่วงพีคของสถานการณ์โลจิสติกส์ระหว่างประเทศ!!!

สัปดาห์นี้จะเป็นการก้าวเข้าสู่สัปดาห์ที่ 46 ของปี 2566 นับจากช่วงเวลานี้ไป พวกเราเหลือเวลาอีกเพียงแค่ 7 สัปดาห์เท่านั้น ก็จะผ่านพ้น ปี 2566 และก้าวเข้าสู่ ปี 2567 ดังนั้นจากสัปดาห์นี้เป็นต้นไป จะเป็นช่วงเวลาสุดท้ายที่สำคัญในปีนี้ของหลายคน โดยเฉพาะพวกเราที่เป็นผู้นำเข้าและส่งออกด้วย

ทุกคนในอุตสาหกรรมนำเข้าส่งออก กำลังเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งความหนักหน่วงเข้มข้นนี้และเป็นช่วงที่ชุลมุนวุ่นวายจนอาจจะไม่มีเวลาติดตามความเคลื่อนไหวรอบๆตัว ดังนั้นวันนี้เราขอเป็นหนึ่งคนที่จะอัพเดทสถานการณ์ต่างๆ ในวงการขนส่งโดยสรุปเป็นรูปแบบง่ายๆ ได้ดังนี้

1.สถานการณ์ในการจองพื้นที่ระวางขนส่งสินค้าทางเรือ ไปอเมริกาเหนือ ดูจะกลับมา PEAK อีกครั้งช่วงสิ้นปีนี้

  • ทั้งการจองพื้นที่ระวางขนส่งสินค้าทางเรือสำหรับสินค้าปกติหรือสินค้าใหม่ยังไม่ค่อยเป็นใจให้กับผู้ที่มีส่งออกจำนวนมากเพราะว่าหลายๆเส้นทางเดินเรือตกอยู่ในภาวะที่จองเรือค่อนข้างยากหรือตารางเรือที่ให้บริการ ไม่เป็นที่พอใจหรือตรงกับช่วงเวลาในการผลิตสินค้าของตน
  • หลายสายการเดินเรือไม่สามารถรับการจองเรือสำหรับงานใหม่ได้ในหลายเส้นทาง เนื่องจากพื้นที่ระวางขนส่งเต็มแน่นยาวไปจนถึงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนพฤศจิกายนเป็นที่เรียบร้อย ตัวอย่างเช่น ในเส้นทางที่ขนส่งไปยังอเมริกาเหนือ ซึ่งในหลายสายการเดินเรือ ไม่สามารถรับการจองเรือสำหรับงานใหม่ๆได้ ทั้งในฝั่ง East Coast และฝั่ง West Coast รวมถึง ในเส้นทางที่ขนส่งไปยังอเมริกาใต้ หรือ Asia- Latin America ซึ่งก็เต็มแน่น ทั้งฝั่ง East Coast และ West Coast เช่นกัน
  • ทั้งนี้ ในช่วงสัปดาห์ที่ 45 ถึงสัปดาห์ที่ 49 เฉพาะแค่ในเส้นทางขนส่งจากเอเชียไปยังอเมริกาเหนือฝั่งตะวันออก พื้นที่ระวางขนส่งที่จะหายไป อาจสูงถึง 110,000 TEU จากการประกาศตารางเรือว่างหรือ Blank Sailing
  • ยังมีอีกเงื่อนไขที่ผู้ส่งออกต้องรับมือนั่นก็คือการจองพื้นที่ระวางเรือไว้ล่วงหน้าแล้วและมีการยืนยันการจองแล้วด้วย แต่นั่นก็ไม่ได้การันตีได้ว่าจะได้พื้นที่ระวางเรือในการขนส่งเป็นไปตามรอบเรือนั้นๆ เนื่องจากว่าพื้นที่ระวางขนส่งที่มีค่อนข้างจำกัดอย่างมาก โดยมีสาเหตุมาจากการที่หลายสายการเดินเรือยังคงเดินหน้ายกเลิกเที่ยวเรือและการปรับเปลี่ยนตารางเดินเรือ

2. สถานการณ์ในการหมุนเวียนของตู้สินค้า / การรับตู้เปล่า

  • ด้านภาพรวมของสถานการณ์ในการจัดหาและการหมุนเวียนของตู้สินค้า หลายพื้นที่ทั่วโลกเข้าสู่ภาวะขาดแคลนแบบเต็มรูปแบบอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากการหมุนเวียนของตู้สินค้า ไม่สอดคล้องกับความต้องการในภาคขนส่งที่เริ่มฟื้นตัวกลับคืนมา
  • ผู้นำเข้าส่งออกจำนวนไม่น้อยในหลายภูมิภาค โดนลดจำนวนวันในการนำตู้สินค้าออกจากท่าเรือและลดจำนวนวันในการใช้ตู้สินค้า เนื่องจากสายการเดินเรือและผู้ให้บริการรขนส่งมีความจำเป็นในการใช้ตู้สินค้าเพื่อหมุนเวียนให้กับผู้ประกอบการส่งออกรายอื่นๆ
  • ด้านภาพรวมการจัดหาและการหมุนเวียนในไทยนั้น ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา หลายสายการเดินเรือ อยู่ในภาวะติดขัดอย่างเห็นได้ชัด หลายสายการเดินเรือไม่มีการขนเอาตู้สินค้าเปล่าเข้ามาหมุนเวียนมีเพียงการรอตู้สินค้าที่เป็นฝั่งขาเข้ากลับมาคืนเท่านั้น
  • การยกเลิกเที่ยวเรือหรือ Blank Sailing ยังคงเป็นวิธีที่ถือว่าได้ผล ในการรักษาสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานในภาคการขนส่งสินค้าทางเรือ หรือพูดง่ายๆก็คือเป็นเครื่องมือที่ไม่ทำให้ราคาค่าระวางขนส่งลดต่ำลงไปมากกว่านี้
  • ทั้งนี้ ในช่วงตั้งแต่ สัปดาห์ที่ 46 ไปจนถึงสัปดาห์ที่ 49 หรือในช่วง 5 สัปดาห์นับจากนี้ ทุกสายการเดินเรือ มีการประกาศตารางเรือว่าง หรือ Blank Sailing ในเส้นทางการขนส่งหลัก รวมกันอย่างน้อย 52 เที่ยวเรือหรือคิดเป็น ร้อยละ 8 จากจำนวนทั้งหมด 650 เที่ยวเรือ โดยในช่วง 5 สัปดาห์ จากนี้ เส้นทางที่ถูกยกเลิกรอบเรือมากที่สุด จะเป็นในเส้นทางการขนส่งจากเอเชียไปยังอเมริกาเหนือในรอบเรือTranspacific Eastbound ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 42 ตามด้วย เส้นทางการขนส่งจากเอเชียไปยังยุโรปตอนเหนือและยุโรปตอนล่าง ซึ่งคิดเป็น ร้อยละ 38

3. สถานการณ์ค่าระวางขนส่งสินค้าทางเรือยังคงปรับขึ้นเป็นระลอก

  • ในรอบสัปดาห์นี้และสัปดาห์ที่ผ่านมา ค่าระวางขนส่งในหลายเส้นทางมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นกันถ้วนหน้า ไม่ว่าจะเป็นในเส้นทางขนส่งสายใน Short Haul หรือแบบสายนอก Long Haul
  • PSS (Peak Season Surcharge) และ GRI (General rate Increase) โดยเริ่มจากค่าระวางขนส่งสำหรับ FAK Rate รวมถึง Tariff Rate และค่าระวางในรูปแบบระยะสั้น หรือ พวก SPOT Rate ด้วย
  • ในขณะที่บางสายการเดินเรือยังคงเลือกที่จะคงรักษา Rate ในช่วง 1- 2 สัปดาห์แรกของเดือนพฤศจิกายน เนื่องจากรอดูท่าทีของสายการเดินเรือหรือผู้รับขนส่งรายอื่นหรือในบางราย ยังคงรอดูจำนวนงาน หรือ Shipment ที่ออกมาจากท่าเรือต้นทาง

4. ด้านสถานการณ์ความหนาแน่นของท่าเรือหลักทั่วโลก หลายท่าเรือเริ่มเห็นภาพความวุ่นวาย แต่ยังไม่ถึงขั้น Congestion

  • ด้านสถานการณ์ท่าเรือหลักของอเมริกาเหนือ หลายท่าเรือหลักในฝั่งตะวันตก อย่าง USLAX, USLGB, USOAK, USTIW, USSEA, เริ่มเข้าสู่ภาวะหนาแน่นเกือบจะครบทุกท่าเรือ ทั้งจำนวนเรือสินค้าที่รอเทียบท่าและปริมาณตู้สินค้าที่ผ่านท่าเรือ ทั้งนี้ก็เนื่องจากสินค้าล็อตใหญ่ที่ออกจากเอเชียก่อนช่วง China Golden Week เริ่มทยอยถึงท่าเรือหลักของสหรัฐอเมริกา ประกอบกับท่าเรือหลักในฝั่งตะวันตก กำลังประสบกับภาวะขาดแคลนอุปกรณ์ในภาคขนส่งทางราง สำหรับการขนถ่ายสินค้า
  • ขณะที่กลุ่มท่าเรือหลักในฝั่งตะวันออกและในฝั่งอ่าว อย่าง USNYC, USORF, USCHS ถือว่าทรงตัว หากแต่เริ่มเห็นสัญญาณความหนาแน่น ขณะที่ USSAV และ USHOU ตกอยู่ในภาวะที่ทั้งจำนวนเรือสินค้าที่รอเข้าเทียบและจำนวนตู้สินค้าจำนวนมากที่ท่ารือ ทั้งนี้ก็เนื่องจากต้องรับมือกับสินค้าจำนวนหนึ่งที่เลี่ยงเส้นทางอื่นมาจากคลองปานามา

ประเด็นข้างต้นนี้ถือเป็นหนึ่งในสถานการณ์การขนส่ง ณ ขณะนี้ อย่างไรก็ตามการวางแผนในหลายๆรูปแบบ แผนสำรองสำหรับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดหรือควบคุมไม่ได้ การจองเรือล่วงหน้าอย่างน้อย 2-3 สัปดาห์ ก็จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับพวกเราในฐานะผู้นำเข้าส่งออกเพื่อป้องกันปัญหาต่างๆได้

CRL Import Team